ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก
บ๊อช ประเทศไทย
ประวัติความเป็นมาของบริษัท

ช่วงฟื้นฟู พ.ศ. 2489 – 2502

อาคารโรงงานบ๊อชแห่งแรกในชตุทท์การ์ทซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก (1945)

เมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง อาคารโรงงานในต่างประเทศของบ๊อชพังเสียหายเป็นครั้งที่สอง อาคารโรงงานส่วนใหญ่ของบ๊อชถูกทำลาย ต้องใช้เวลาช่วงสองทศวรรษต่อมาในการก่อสร้างอาคารโรงงานใหม่ตลอดจนเสริมกำลังด้วยสายธุรกิจใหม่ ๆ

ภาพคนงานกำลังทำงานก่อสร้างตึก

การก่อสร้างใหม่ของบ๊อช — ทุุ่มกำลังและแรงกาย

ในช่วงปี 2488 อาคารโรงงานของบ๊อชกว่าร้อยละ 50 .ในเยอรมนีถูกทำลายจากระเบิดของฝ่ายสัมพันธมิตร บ๊อชถูกกำหนดเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ให้มีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้ผลิตยานพาหนะที่ใช้ในกองทัพช่วงสงคราม ตอนนี้ ได้เวลาที่บ๊อชต้องสะสาง ก่อสร้างและสร้างสรรค์งานใหม่ ๆ สำหรับพนักงาน

ร่องรอยการทำลายบางอย่างยังคงเหลือไว้ให้เห็นหลังจากสงครามจบ อาคารโรงงานบ๊อชแห่งแรกในชตุทท์การ์ทซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก (2488)
ร่องรอยการทำลายบางอย่างยังคงเหลือไว้ให้เห็นหลังจากสงครามจบ อาคารโรงงานบ๊อชแห่งแรกในชตุทท์การ์ทซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก (2488
หนึ่งปีหลังสงครามจบ สัญญาณการก่อสร้างเริ่มมีให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างโดยเฉพาะอาคารโรงงานที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักในชตุทท์การ์ท (2489)
หนึ่งปีหลังสงครามจบ สัญญาณการก่อสร้างเริ่มมีให้เห็นเป็นรูปเป็นร่างโดยเฉพาะอาคารโรงงานที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักในชตุทท์การ์ท (2489)
การควบคุมคุณภาพหัวเทียรในโรงงานที่ Bamberg (2493) ผลิตภัณฑ์ดั้งเดิมที่บ๊อชผลิตตั้งแต่เริ่มแรกในปี 2445 ได้กลายเป็นเครื่องกำหนดเสน้นทางการปรัตัวดีขึ้นทางเศรษฐกิจหลังปี 2488
การควบคุมคุณภาพหัวเทียรในโรงงานที่ Bamberg (2493) ผลิตภัณฑ์ดั้งเดิมที่บ๊อชผลิตตั้งแต่เริ่มแรกในปี 2445 ได้กลายเป็นเครื่องกำหนดเสน้นทางการปรัตัวดีขึ้นทางเศรษฐกิจหลังปี 2488
บ๊อชเฉลิมฉลองปั๊มฉีดเชื้อเพลิงตัวที่หนึ่งล้านในโถงอาคารโรงงานที่ฟอยเออร์บาค (2493) ปั๊มดังกล่าวยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จมาจนถึงตอนนี้ตั้งแต่เริ่มเข้าสู่การผลิตในปี 2470
บ๊อชเฉลิมฉลองปั๊มฉีดเชื้อเพลิงตัวที่หนึ่งล้านในโถงอาคารโรงงานที่ฟอยเออร์บาค (2493) ปั๊มดังกล่าวยังคงเป็นผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จมาจนถึงตอนนี้ตั้งแต่เริ่มเข้าสู่การผลิตในปี 2470
/

หัวเทียนกับกระทะ — ทางรอดยุคหลังสงคราม

เพื่อให้สามารถจ้างพนักงานได้อีกครั้งและมีเงินจ่ายค่าแรง บ๊อชกลับมายืนได้อีกครั้งโดยการผลิตตั้งแต่หม้อปรุงอาหารที่ทำจากหมวกนิรภัยจากเหล็กกล้า รถเข็นขนาดเล็ก รวมถึงร่ม ในซากปรักหักพังของโรงงาน พนักงานจะนำเครื่องใช้เหล่านี้ไปใช้เอง หรือไม่ก็แลกเปลี่ยนกับของใช้จำเป็น ผลิตภัณฑ์ตัวแรกที่เริ่มมีความซับซ้อนมากขึ้นก็คือ หัวเทียนสำหรับยานพาหนะที่ใช้ในกองทัพสัมพันธมิตร

ไฟบอกทิศทางซึ่งเริ่มเข้าสู่การผลิตที่นี่ในปี 2492 ถือเป็นสิ่งใหม่อย่างสิ้นเชิง ผลิตภัณฑ์นี้ได้เข้ามาแทนระบบบอกทิศทางที่บ๊อชเริ่มผลิตมาในปี 2470 (2493)
ไฟบอกทิศทางซึ่งเริ่มเข้าสู่การผลิตที่นี่ในปี 2492 ถือเป็นสิ่งใหม่อย่างสิ้นเชิง ผลิตภัณฑ์นี้ได้เข้ามาแทนระบบบอกทิศทางที่บ๊อชเริ่มผลิตมาในปี 2470 (2493)
หลังจากสิ้นสุดสงคราม บ๊อชก็ได้กลับมาเน้นที่จุดแข็งเดิม ได้แก่ การวิจัยและพัฒนารวมถึงการสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ ทีมวิจัยของบ๊อชได้เริ่มพัฒนากล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนในปี 1948 เพื่อใช้ในงานวิจัยวัสดุของบ๊อชเอง (1950)
หลังจากสิ้นสุดสงคราม บ๊อชก็ได้กลับมาเน้นที่จุดแข็งเดิม ได้แก่ การวิจัยและพัฒนารวมถึงการสร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ ทีมวิจัยของบ๊อชได้เริ่มพัฒนากล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนในปี 1948 เพื่อใช้ในงานวิจัยวัสดุของบ๊อชเอง (1950)
คุณภาพเป็นหลักเกณฑ์สำคัญที่บ๊อชยึดถือเสมอมา การสุ่มทดสอบในการผลิตแตรรถ เป็นต้นจึงเป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติ (2493)
คุณภาพเป็นหลักเกณฑ์สำคัญที่บ๊อชยึดถือเสมอมา การสุ่มทดสอบในการผลิตแตรรถ เป็นต้นจึงเป็นสิ่งที่ต้องปฏิบัติ (2493)
/

ทายาทจัดการมรดกตามพินัยกรรมของโรเบิร์ต บ๊อชและประธานคณะกรรมการบริหาร

โรเบิร์ต บ๊อชถึงแก่กรรมในปี 2485 ทายาทผู้จัดการทรัพย์สินตามมรดกได้สร้างบริษัทขึ้นใหม่ตามความต้องการและพินัยกรรมของบ๊อชหลังปี 2488 เป้าหมายก็คือการก่อให้เกิดรายได้แต่ก็มีเปิดช่องทางให้มีการแบ่งรายได้ที่เหลือบางส่วนไปช่วยเหลือสังคมด้วย Hans Walz ดำเนินกิจการของบริษัทในฐานะทายาทของผู้ก่อตั้งจนถึงปี 2506

ในพินัยกรรมซึ่งเขียนขึ้นสี่ปีก่อนเสียชีวิตในปี 2485 โรเบิร์ต บ๊อชขอให้บริษัทมีการพัฒนาต่อยอดอย่าง "แข็งแกร่ง" เขาไม่ได้กำหนดเส้นทางไว้เฉพาะ แต่ได้วางทิศทางเพื่อช่วยทายาทที่แสดงไว้ในรูปภาพให้ดำเนินการบริหารบริษัทต่อไป (2497)
ในพินัยกรรมซึ่งเขียนขึ้นสี่ปีก่อนเสียชีวิตในปี 2485 โรเบิร์ต บ๊อชขอให้บริษัทมีการพัฒนาต่อยอดอย่าง "แข็งแกร่ง" เขาไม่ได้กำหนดเส้นทางไว้เฉพาะ แต่ได้วางทิศทางเพื่อช่วยทายาทที่แสดงไว้ในรูปภาพให้ดำเนินการบริหารบริษัทต่อไป (2497)
Hans Walz รับช่วงต่อจากโรเบิร์ต บ๊อชเป็นประธานบริษัท (2496)
Hans Walz รับช่วงต่อจากโรเบิร์ต บ๊อชเป็นประธานบริษัท (2496)
/

การดำเนินการเพื่อต่อต้านการผูกขาด — ความกลัวที่จะสูญเสียทุกสิ่ง

ความกระหายที่จะเป็นมหาอำนาจของโลกของพรรคสังคมนิยมแห่งชาติบรรลุเป้าหมายเพียงแค่ช่วยผลักดันให้เกิดบริษัทที่แข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ ดังนั้น ฝ่ายสัมพันธมิตรจึงพยายามที่จะแบ่งแยกเยอรมันซึ่งเป็นองค์กรใหญ่รวมถึงบ๊อชด้วย อย่างไรก็ตาม บริษัทก็มีโครงสร้างที่เติบโตแบบองค์รวมซึ่งหมายความว่าไม่มีส่วนใดที่อยู่รอดได้เอง ท้ายที่สุด บริษัทบ๊อชก็ยังสมบูรณ์แทบทั้งหมดแม้ว่าจะต้องเปิดเผยสิทธิบัตรให้คู่แข่งทั้งหมดใช้งานก็ตาม

บ๊อชได้เปลี่ยนให้การแข่งรถเป็นตัวช่วยในการสร้างธุรกิจใหม่อีกครั้งในช่วงทศวรรษที่ 2493 ซึ่งเริ่มจัดตั้ง "บริการสำหรับรถแข่ง" สำหรับงานซ่อมบำรุงและประกอบอะไหล่ในปี 2480 การใช้เทคโนโลยีของบ๊อชอย่างประสบความสำเร็จท่ามกลางสภาพการใช้งานที่ยากเป็นเครื่องมือโฆษณาที่ดีสำหรับความเชื่อถือได้และความทนทานของผลิตภัณฑ์
บ๊อชได้เปลี่ยนให้การแข่งรถเป็นตัวช่วยในการสร้างธุรกิจใหม่อีกครั้งในช่วงทศวรรษที่ 2493 ซึ่งเริ่มจัดตั้ง "บริการสำหรับรถแข่ง" สำหรับงานซ่อมบำรุงและประกอบอะไหล่ในปี 2480 การใช้เทคโนโลยีของบ๊อชอย่างประสบความสำเร็จท่ามกลางสภาพการใช้งานที่ยากเป็นเครื่องมือโฆษณาที่ดีสำหรับความเชื่อถือได้และความทนทานของผลิตภัณฑ์
สำนักงานใหญ่ของบ๊อชใน Breitscheidstrasse ของชตุทท์การ์ทสว่างไสวทุกคืน (2494) เป็นที่ที่ผู้บริหารของงบ๊อชและผู้แทนสัมพันธมิตรกำลังต่อสู้กันเรื่องอนาคตของบริษัทในการดำเนินการเพื่อต่อต้านการผูกขาด
สำนักงานใหญ่ของบ๊อชใน Breitscheidstrasse ของชตุทท์การ์ทสว่างไสวทุกคืน (2494) เป็นที่ที่ผู้บริหารของงบ๊อชและผู้แทนสัมพันธมิตรกำลังต่อสู้กันเรื่องอนาคตของบริษัทในการดำเนินการเพื่อต่อต้านการผูกขาด
/
ภาพวาดโลกทันสมัยที่มีสถานที่สำคัญและเมืองหลวงที่มีชื่อเสียงทั่วโลก

“ผลิตจากทั่วทุกมุมโลก" — เส้นทางสู่การเป็นบริษัทข้ามชาติ

ก่อนที่ฮิตเลอร์จะเข้ายึดอำนาจ ยอดขายมากกว่าร้อยละ 50 ของบ๊อชมาจากธุรกิจระหว่างประเทศ แต่หลังจาก ปี พ. ศ. 2488 ยอดขายจากต่างประเทศแทบจะกลายเป็นศูนย์ และทรัพย์สินของบริษัทในต่างประเทศต้องถูกยึด แต่ด้วยความสัมพันธ์ที่ดีกับพันธมิตรที่ยาวนานและตลาดที่เติบโตเร็วในประเทศต่างๆ เช่น บราซิลและอินเดีย การสร้างเครือข่ายทั่วโลกจึงค่อยๆ ดำเนินไปได้ เช่นเดียวกันกับยอดขายในต่างประเทศทั้งหมดของบ๊อช ที่ต้องรอจนถึงปี พ. ศ. 2503 ที่กลับมาเติบโตเกินร้อยละ 20 อีกครั้ง

ในช่วงทศวรรษที่ 2493 การผลิตยังคงดำเนินการที่เยอรมนีเป็นหลัก โลจิสติกส์ขนส่งขั้นสูงเป็นที่ต้องการเพื่อส่งออกสินค้าไปทั่วโลก ระบบลำเลียงหีบห่อเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากในตอนนั้น (2494
ในช่วงทศวรรษที่ 2493 การผลิตยังคงดำเนินการที่เยอรมนีเป็นหลัก โลจิสติกส์ขนส่งขั้นสูงเป็นที่ต้องการเพื่อส่งออกสินค้าไปทั่วโลก ระบบลำเลียงหีบห่อเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากในตอนนั้น (2494)
บ๊อชเริ่มตั้งโรงงานผลิตไปทั่วโลกในช่วงทศวรรษที่ 2493 สถานที่ตั้งของบ๊อชในเคลย์ตันใกล้กับเมลเบิร์นมีการผลิตระบบไฟฟ้่าสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ในออสเตรเลีย เช่น ระบบจุดระเบิด ที่ปัดน้ำฝน แตรรถ เครื่องกำเนิด สตาร์ตเตอร์ และระบบส่องสว่าง (1960)
บ๊อชเริ่มตั้งโรงงานผลิตไปทั่วโลกในช่วงทศวรรษที่ 2493 สถานที่ตั้งของบ๊อชในเคลย์ตันใกล้กับเมลเบิร์นมีการผลิตระบบไฟฟ้่าสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ในออสเตรเลีย เช่น ระบบจุดระเบิด ที่ปัดน้ำฝน แตรรถ เครื่องกำเนิด สตาร์ตเตอร์ และระบบส่องสว่าง (1960)
ยานพาหนะสำหรับวิจัยของบ๊อชในลานจอดที่ชตุทท์การ์ทได้จิดตั้งให้มีไฟหน้ารถและแตรรถแบบต่าง ๆ นับไม่ถ้วนซึ่งใช้งานกันทั่วโลก เป็นการทดสอบขับบนถนนจริง (2497)
ยานพาหนะสำหรับวิจัยของบ๊อชในลานจอดที่ชตุทท์การ์ทได้จิดตั้งให้มีไฟหน้ารถและแตรรถแบบต่าง ๆ นับไม่ถ้วนซึ่งใช้งานกันทั่วโลก เป็นการทดสอบขับบนถนนจริง (2497)
/

สง่างามในความสมบูรณ์แบบ — เทคโนโลยีเพื่อผู้บริโภค

ในช่วงระหว่างต้นปี พ. ศ. 2493 บ๊อชนำผลิตภัณฑ์เข้าสู่ตลาดซึ่งสะท้อนถึงปาฏิหาริย์ทางเศรษฐกิจในเยอรมนีและยุโรป ที่ได้ตอบสนองผู้บริโภคราวกับช่วงเวลาที่ยากลำบากได้ปิดฉากลงแล้ว ตัวอย่างเช่น เครื่องใช้ในครัว สว่านไฟฟ้าสำหรับผู้ชื่นชอบงานสร้างสรรค์ด้วยตัวเอง ผลิตภัณฑ์ที่เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก เช่น วิทยุในรถ ที่ขายได้หลักล้านเครื่อง

ในบรรดาผลิตภัณฑ์ที่ออกวางขายในช่วงทศวรรษที่ 1950 เครื่องซักผ้่าลงปกแผ่นพับโฆษณาตั้งแต่ปี 2501
ในบรรดาผลิตภัณฑ์ที่ออกวางขายในช่วงทศวรรษที่ 1950 เครื่องซักผ้่าลงปกแผ่นพับโฆษณาตั้งแต่ปี 2501
บ๊อชออกตู้เย็นเครื่องแรกช่วงต้นปี 2476 แต่เพิ่งจะหาซื้อใช้กันได้ทั่วไปตอนที่เริ่มมีการผลิตแบบจำนวนมากที่ประหยัดเวลาและต้นทุนหลังจากสงคราม (2501)
บ๊อชออกตู้เย็นเครื่องแรกช่วงต้นปี 2476 แต่เพิ่งจะหาซื้อใช้กันได้ทั่วไปตอนที่เริ่มมีการผลิตแบบจำนวนมากที่ประหยัดเวลาและต้นทุนหลังจากสงคราม (2501)
/

เครื่องครัวบ๊อช

ภาพเหตุการณ์ขายเครื่องเตรียมอาหารในร้านค้าในชตุทท์การ์ท (1962)

“ปรากฏการณ์ใหม่" ในห้องครัว

เครื่องเตรียมอาหารของบ๊อชได้สร้างปรากฏการณ์สองสิ่งในช่วงที่วางตลาด ชื่อรุ่น "Neuzeit" ได้รับขนานนามว่า "ผู้ช่วยของคุณผู้หญิง" ลูกค้าในสังคมเมืองได้พบกับยุคใหม่แห่งเทคโนโลยีเครื่องใช้ในบ้านที่ช่วยให้งานบ้านเป็นเรื่องง่าย

สิ่งที่ดึงดูดครัวเรือนในชนบทคือการมีเครื่องที่สามารถช่วยเตรียมอาหารในปริมาณมากได้ ด้วยเหตุผลของ ความหนาแน่นของครัวเรือนขนาดใหญ่ มีลูกหลายคน อีกเหตุผลก็คือ ความต้องการเตรียมผักผลไม้ด้วยความรวดเร็วเพื่อถนอมไว้ภายหลัง เช่น การแช่แข็งผลผลิตเพื่อทำแยมและผลไม้แช่อิ่ม

"Neuzeit" เป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานได้หลายอย่างทั้ง หั่น สับ นวดแป้ง บด รีดหรือแม้แต่ปอกมันฝรั่ง

รูป: ภาพเหตุการณ์ขายเครื่องเตรียมอาหารในร้านค้าที่ชตุทการ์ท (พ. ศ. 2505)

รูป: ภาพเหตุการณ์ขายเครื่องเตรียมอาหารในร้านค้าในชตุทท์การ์ท (2505)

การกลับมาของผลิตภัณฑ์ร่วมสมัย — ระบบฉีดเชื้อเพลิงเบนซินในรถยนต์

Gutbrod Superior รถโดยสารรุ่นแรกที่ติดตั้งระบบฉีดเบนซินของบ๊อช สิ่งนี้ลดการใช้พลังงานลงถึงร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับคาร์บูเรเตอร์และสมรรถนะเดินเครื่อง (2495)
Gutbrod Superior รถโดยสารรุ่นแรกที่ติดตั้งระบบฉีดเบนซินของบ๊อช สิ่งนี้ลดการใช้พลังงานลงถึงร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับคาร์บูเรเตอร์และสมรรถนะเดินเครื่อง (2495)

เทคโนโลยีที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ของบ๊อชมีรากฐานมาตั้งแต่สมัยก่อนสงครามโลก นวัตกรรมจึงเป็นส่วนสำคัญในการเสริมศักยภาพการแข่งขันให้กับสินค้า ระบบฉีดเชื้อเพลิงที่บ๊อชได้พัฒนาสำหรับเครื่องยนต์อากาศยานถือเป็นนวัตกรรมสำหรับยานยนต์ช่วงระหว่างต้นปี พ. ศ. 2493 แม้ว่าจะใช้เวลาหลายทศวรรษในการผลักดันให้อุตสาหกรรมนำมาใช้เป็นมาตรฐานการผลิต

บ๊อช คอมบิ

"บ๊อช คอมบิ" สำหรับงานดีไอวาย - มาพร้อมกับกล่องพกพาที่ใช้งานง่าย (2495)

เครื่องมือช่างในครัวเรือน

ความชื่นชอบดีไอวายเป็นธุรกิจที่สดใสสำหรับบ๊อช เครื่องมือไฟฟ้า "บ๊อช คอมบิ" ซึ่งออกมาในปี พ. ศ. 2495 สามารถใช้งานได้หลากหลาย เช่น สว่าน ไขควง เครื่องขัดทราย หรือแม้แต่เครื่องตัดไม้พุ่ม สิ่งนี้ทำให้เกิดกลุ่มธุรกิจใหม่ในยุโรปซึ่งผู้ชื้อคือผู้ชายเป็นหลัก สำหรับ "งานดีไอวาย" ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นในห้องใต้ดินหรือโรงรถ

ชุดเครื่องมือครบชุดที่มีส่วนประกอบมาตรฐานหาซื้อได้ตามร้านค้าที่วางโชว์ในกล่องหรือตู้ไม้ติดผนัง นับเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่บ๊อชได้พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับตลาดทั่วไปรองจากตลาดมืออาชีพเฉพาะกลุ่ม เพื่อเติมเต็มความหลากหลายสำหรับงานก่อสร้าง เช่น สว่านเจาะ เป็นต้น

รูป: "บ๊อช คอมบิ" สำหรับงานดีไอวาย - มาพร้อมกับกล่องพกพาที่ใช้งานง่าย (2495)

ระบบอิเล็กทรอนิกส์ — สายธุรกิจและผลลัพธ์

บ๊อชเริ่มพัฒนาส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ช่วงกลางปี พ. ศ. 2493 หนึ่งในนั้นคือ “ตัวนำไฟฟ้า" ซึ่งบ๊อชเริ่มผลิตปี พ. ศ. 2501 ตามด้วยทรานซิสเตอร์และวงจรรวมตั้งแต่ปี พ. ศ. 2513 ท่ามกลางข้อสงสัย และคำวิพากษ์วิจารณ์ ทีมสนับสนุนก็ยังมีความกระตือรือร้นที่จะพัฒนา พวกเขาได้เริ่มบุกเบิกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นี้ขึ้นมา และในตอนนี้ได้กลายเป็นธุรกิจหลักของบ๊อชไปแล้ว

ส่วนประกอบธรรมดา ๆ มีขนาดเกือบเท่าเม็ดถั่วและแยกแทบไม่ออกในรูปของตัวคุมค่าเครื่องกำเนิด หลังจากเริ่มเข้าสู่การผลิตแบบเป็นชุดในปี 1958 ส่วนประกอบกึ่งตัวนำที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้ก็ได้ปรับปรุงวิธีที่เครื่องกำเนิดอัดประจุแบตเตอรี่โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเครื่องยนต์เดินเบาในช่วงที่การจราจรหยุดนิ่งกับที่
ส่วนประกอบธรรมดา ๆ มีขนาดเกือบเท่าเม็ดถั่วและแยกแทบไม่ออกในรูปของตัวคุมค่าเครื่องกำเนิด หลังจากเริ่มเข้าสู่การผลิตแบบเป็นชุดในปี 1958 ส่วนประกอบกึ่งตัวนำที่เป็นนวัตกรรมใหม่นี้ก็ได้ปรับปรุงวิธีที่เครื่องกำเนิดอัดประจุแบตเตอรี่โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเครื่องยนต์เดินเบาในช่วงที่การจราจรหยุดนิ่งกับที่
ส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ในยุคแรก ๆ ของบ๊อชเริ่มมาจากเจอร์เมเนียมเป็นหลักตามด้วยซิลิคอนและคริสตัลในเวลาต่อมา รูปภาพนี้แสดงให้เห็นการผลิตผลึกเจอร์เมเนียม (2504)
ส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ในยุคแรก ๆ ของบ๊อชเริ่มมาจากเจอร์เมเนียมเป็นหลักตามด้วยซิลิคอนและคริสตัลในเวลาต่อมา รูปภาพนี้แสดงให้เห็นการผลิตผลึกเจอร์เมเนียม (2504)
/