ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก
บ๊อช ประเทศไทย
เทคโนโลยีในยุคแห่งการเปลี่ยนผ่าน

นวัตกรรมในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่าน

Visual analytics

มีคำกล่าวที่ว่าช่วงเวลาแห่งความทุกข์ยากและความสับสนวุ่นวายจะดึงสิ่งที่ดีที่สุดในตัวคนออกมา นี่คือสิ่งที่บ๊อชคาดหวังว่าจะเป็นเครื่องยืนยันในประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 133 ปี การผสมผสานระหว่างนวัตกรรม ความกล้าที่จะยืนหยัดในความเชื่อมั่น และแนวคิดของผู้ประกอบการในช่วงเวลาอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนี้นับเป็นสูตรแห่งความสำเร็จ

ยอมรับการเปลี่ยนแปลงเพื่อก้าวไปข้างหน้า

โรเบิร์ต บ๊อช ผู้ก่อตั้งบริษัทของเราเข้าใจดีว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นคือเหตุผลที่เขาไม่ได้เดิมพันความอยู่รอดของทั้งบริษัทจากความสำเร็จในช่วงต้นของระบบจุดระเบิดแมกนีโต ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เรือธงตัวแรกของเขา แต่เขากลับสร้างกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายขยายไลน์ธุรกิจเพิ่มเติมในสาขาเทคโนโลยียานยนต์ เครื่องมือไฟฟ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน และยังมุ่งมั่นที่จะสร้างเครือข่ายคู่ค้าและผู้แทนจำหน่ายระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นแนวคิดที่เกิดขึ้นมานานก่อนที่จะกลายเป็นแนวทางปฏิบัติทั่วไปสำหรับบริษัทเทคโนโลยีอุตสาหกรรม

โรเบิร์ต บ๊อช เชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าความสำเร็จในกิจการของเขาขึ้นอยู่กับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่บริษัทนำเสนอ รวมทั้งความไว้วางใจและความสัมพันธ์ที่มีกับพนักงาน คู่ค้า และลูกค้า หลักการเหล่านี้เป็นสิ่งที่ชี้นำเรามาตั้งแต่ปี 1886

เราคิดเผื่อไปข้างหน้าและจินตนาการถึงสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้ นี่คือวิธีที่เราใช้อธิบายแนวคิดสำหรับเทคโนโลยีแห่งอนาคต

ดร. โฟล์คมาร์ เดนเนอร์ ประธานคณะกรรมการบริหาร
ศูนย์วิจัยและพัฒนาของบ๊อชในโฮจิมินห์ซิตี้ ประเทศเวียดนาม

ความก้าวล้ำสู่การปรับกระบวนทัศน์

การคาดการณ์ถึงการหยุดชะงักทางธุรกิจและการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันเป็นแรงผลักดันให้เราทำการเสาะหาเทคโนโลยี และพัฒนาโซลูชันใหม่อย่างต่อเนื่อง ความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคและทีมวิจัยที่ขยันขันแข็งของเราทำให้เราสามารถคิดค้นสิ่งใหม่ๆ ได้ การลงทุนในช่วงแรกๆ ของเราในสาขาอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์และเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเป็นตัวอย่างสำคัญของการลงทุนที่คุ้มความเสี่ยง

เมื่อบ๊อชเริ่มเข้าสู่การผลิตระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ซับซ้อนในช่วงกลางทศวรรษ 1960 เรามีความเชื่ออย่างแรงกล้าที่จะทดลองเสี่ยง การผสานรวมชิ้นส่วนประกอบทางอิเล็กทรอนิกส์เข้ากับยานพาหนะในช่วงเวลานั้นเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ เนื่องจาก เทคโนโลยีที่มีอยู่เดิมนั้นไม่ทนทาน และไม่ทนต่ออุณหภูมิหรือการสั่นสะเทือนสูง จึงไม่เหมาะสำหรับการใช้งานด้านยานยนต์ แม้จะมีปัญหาในเบื้องต้น แต่บ๊อชก็กล้าที่จะทดสอบ ปัจจุบัน ศูนย์วิจัยและพัฒนาของเราในโฮจิมินห์ซิตี้ในเวียดนามมีวิศวกรกว่า 70 คน ซึ่งเชี่ยวชาญในการสร้างนวัตกรรมโซลูชันยานยนต์รวมถึงการพัฒนาชิ้นส่วนประกอบทางไฟฟ้าเพื่อการใช้งานในระบบการจัดการเครื่องยนต์และความปลอดภัยเชิงป้องกัน นอกเหนือจากการผลักดันความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสำหรับโรงงานผลิตยานยนต์สองแห่งของบ๊อชในประเทศไทยและเยอรมนีแล้ว ทางศูนย์ฯ ยังได้ริเริ่มความร่วมมือในการพัฒนาร่วมกับโรงงานอื่นๆ ของบ๊อชในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ยุโรป อเมริกาเหนือและอเมริกาใต้อีกด้วย

"อิเล็กทรอนิกส์กำลังสำหรับระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าในรถยนต์ทดลองโดยบ๊อชในปี 1967"
"อิเล็กทรอนิกส์กำลังสำหรับระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าในรถยนต์ทดลองโดยบ๊อชในปี 1967"

เมื่อพูดถึงการปรับตัวให้เข้ากับกระแสโลกที่กำลังจะเกิดขึ้นนั้น ความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคในเชิงลึกถือเป็นกุญแจสำคัญ จากความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมายสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ อย่างเช่น กฎหมายที่ว่าด้วยการควบคุมคุณภาพอากาศของสหรัฐอเมริกาฉบับปี 1963 บ๊อชจึงเริ่มทำการวิจัยทางเลือกสำหรับรถยนต์ในการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าตั้งแต่ปี 1967 ในเวลานั้น เทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเป็นแนวคิดที่ออกจะผิดแปลก เนื่องจากมอเตอร์ไฟฟ้าไม่สามารถแข่งกับเครื่องยนต์เบนซินได้ทั้งในด้านระยะทาง ประสิทธิภาพเชื้อเพลิง และความพร้อมใช้งาน อย่างไรก็ตาม ในช่วง 60 ปีต่อมา บ๊อชยังคงทำการวิจัยทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสำหรับเครื่องยนต์สันดาปภายในโดยอาศัยความเชี่ยวชาญด้านมอเตอร์ไฟฟ้า การพัฒนาแบตเตอรี่ และไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ปัจจุบัน เรามีกลุ่มผลิตภัณฑ์และความเชี่ยวชาญที่ครอบคลุมในโซลูชันระบบส่งกำลังทุกประเภท ตั้งแต่ระบบฉีดเชื้อเพลิงที่ล้ำสมัยไปจนถึงการขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริดและการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าทั้งหมด ซึ่งเป็นการนำเสนอระบบการขับเคลื่อนแบบยั่งยืน ปลอดภัย และน่าตื่นตาตื่นใจสำหรับคู่ค้าและลูกค้าของเรา

การคิดค้นสำหรับช่วงเวลาที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

บ๊อชยังคงมุ่งหน้าพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็น “เทคโนโลยีเพื่อชีวิต” อย่างแท้จริง ท่ามกลางการเผชิญกับวิกฤติด้านสุขภาพทั่วโลกในปี 2020 ความสามารถในการตอบสนองอย่างรวดเร็ว และการปรับโซลูชันที่มีอยู่ให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วกลายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง

Vivalytic เป็นแพลตฟอร์มการวินิจฉัยสากลที่สามารถทำการทดสอบในห้องปฏิบัติการในวงกว้างได้อย่างรวดเร็วและเชื่อถือได้ ผลิตภัณฑ์นี้ได้รับการคิดค้นขึ้นเมื่อหลายปีก่อน และถูกดัดแปลงเพื่อรองรับสิ่งอำนวยความสะดวกทางการแพทย์ในช่วงที่มีการระบาดใหญ่โดยได้รับการพัฒนาให้ใช้กับอุปกรณ์ตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างรวดเร็ว

แพลตฟอร์มการวินิจฉัย Vivalytic ของบ๊อช
แดชบอร์ดโซลูชันเพื่ออาคารอัจฉริยะของบ๊อช

นอกจากการสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพในการต่อสู้กับเชื้อไวรัสแล้ว เทคโนโลยีแบบปรับแต่งได้ของเราจะมีบทบาทสำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดในอนาคตอีกด้วย โซลูชันเพื่ออาคารอัจฉริยะของบ๊อชซึ่งแรกเริ่มเดิมทีได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยลดความซับซ้อนด้านการจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกด้วยคุณสมบัติต่างๆ เช่น การวัดคุณภาพอากาศหรือระบบตรวจจับการสั่นสะเทือนขณะจอดรถ สามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างง่ายดายเพื่อรองรับมาตรการด้านความปลอดภัยและการควบคุมฝูงชน ด้วยการวิเคราะห์แบบอัจฉริยะและการผสานรวมเข้ากับอาคารได้อย่างสมบูรณ์ โซลูชันของเราจึงสามารถระบุพื้นที่ที่ไม่มีการรักษาระยะห่างทางสังคมได้ โดยแจ้งผู้ดูแลอาคาร ประกาศแจ้งเตือนระยะห่างที่ปลอดภัยผ่านระบบเสียงประกาศของบ๊อช และยังช่วยอำนวยความสะดวกในการติดตามผู้สัมผัสได้ในกรณีที่มีการแพร่เชื้อไวรัส เมื่อรวมกับเทคโนโลยีแบบไร้สัมผัสของบ๊อชเช่น ระบบควบคุมการเข้า - ออก และการบำรุงรักษาระยะไกลแล้ว โซลูชันเหล่านี้จะสามารถจำกัดการแพร่กระจายของไวรัสได้อย่างมาก

ยืนหนึ่งในการฝ่าวิกฤติ

การสร้างกรอบความคิดเชิงนวัตกรรมที่อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยีทั้งหมดของบ๊อช และความพร้อมของเราในการเสาะแสวงหาโอกาสใหม่ๆ ทำให้เราเป็นบริษัทแถวหน้าในการคิดค้นนวัตกรรมด้านเทคโนโลยี การก้าวสู่ทศวรรษที่สามแห่งศตวรรษที่ 21 เริ่มต้นขึ้นท่ามกลางความวุ่นวายและการหยุดชะงักของธุรกิจที่ไม่สามารถปรับตัวได้ แต่ที่บ๊อช พวกเราก้าวเข้าสู่ยุคใหม่นี้ด้วยความมั่นใจว่านวัตกรรมคือคำตอบสำหรับความท้าทายในอนาคต

แชร์สิ่งนี้บน:

เรียนรู้เกี่ยวกับเรา

สื่อสารองค์กร

โทรศัพท์

ส่งข้อความหาเรา

ค้นหาเพิ่มเติม